วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำลูกท้อ

ส่วนผสม
   ลูกท้อดองน้ำเกลือ 10 เมล็ด
   น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย
   เกลือ 1-2 ช้อนชา
   น้ำ 6 ถ้วย

วิธีทำ          นำลูกท้อมายีเอาแต่เนื้อ ต้มน้ำ เติมน้ำตาลคนให้ละลาย ใส่เนื้อท้อ ต้มอีกสักครู่จนน้ำมีสีเหลืองอ่อน เติมเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ปิดฝาหม้อทิ้งให้เย็น ดื่มโดยเติมน้ำแข็ง

ท้อ

          ท้อ (จีน: 桃, อังกฤษ: Peach, ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus persica) เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน จัดเป็นไม้พุ่มผลัดใบ อยู่ในสกุล Prunus อันเป็นสกุลเดียวกันกับ ซากุระ, บ๊วย, เชอร์รี่ หรือนางพญาเสือโคร่ง
          ท้อจัดเป็นไม้เมืองหนาวที่จะขึ้นได้ดีในที่ ๆ มีความสูงตั้งแต่ 3,000 ฟุตขึ้นไป อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 10 องศาเซลเซียส ทนแล้งได้ดี เป็นไม้ใบเดี่ยว เรียงสลับ ขอบใบจัก ดอกเดี่ยว มักออกเป็นกระจุก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีขาวหรืออาจเป็นสีแดง หรือชมพู ดอกจะแตกออกมาก่อนใบ ผลเป็นผลสดเมล็ดเดี่ยว มีขนปกคลุมทั่วบริเวณผิว
          ท้อนับเป็นผลไม้ที่ใช้ประโยชน์ในการรับประทานมาอย่างยาวนาน และได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากนี้แล้วในวัฒนธรรมของชนชาติต่าง ๆ จะมีท้อเข้ามาร่วมอยู่ด้วย ได้แก่ ชาวจีนมีความเชื่อว่า ท้อเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว และเกี่ยวข้องกับการกับการป้องกันสิ่งชั่วร้าย ถ้าดอกท้อของบานในระหว่างการฉลองวันปีใหม่ หมายถึง ปีต่อไปจะเป็นปีของโชคลาภ และดอกท้อยังใช้ประดับตกแต่งภายในบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอีกด้วย นอกจากนี้แล้วในสมัยโบราณ

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำลูกพรุน


ส่วนผสม
   ลูกพรุน 1 ถ้วยตวง
   น้ำเปล่า 8 ถ้วยตวง
   น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
   เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ          นำเอาเมล็ดลูกพรุนออก ต้มเนื้อลูกพรุนจนเปื่อย ยีให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ  เติมเกลือ น้ำตาลทราย คนให้ละลาย ตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง

พรุน

          สกุลพรุน เป็นสกุลของต้นไม้และไม้พุ่มซึ่งรวมถึง พลัม, เชอร์รี่, ลูกท้อ, แอปริคอต, ซากุระ และ อัลมอนด์ ใช้ชื่อสกุลว่า Prunus ในวงศ์กุหลาบ แต่เดิมอยู่ในวงศ์ย่อย Prunoideae (หรือ Amygdaloideae) แต่บางครั้งก็มีวงศ์เป็นของตนเองคือ Prunaceae (หรือ Amygdalaceae) เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นได้ชัดว่า Prunus วิวัฒน์มาจากวงศ์ย่อย Spiraeoideae มีประมาณ 430 สปีชีส์ กระจายทั่วพื้นที่ส่วนบนของโลก
          ดอกเป็นสีขาวถึงชมพู มี 5 กลีบเลี้ยง 5 กลีบดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือในช่อซี่ร่ม 2-6 หรือมากกว่าบนช่อกระจะ ผลเป็นแบบผลเมล็ดเดียวแข็ง ใบเป็นรูปหอก

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำใบบัวบก




ส่วนผสม
   ใบบัวบก 2 ถ้วย
   น้ำ 2 ถ้วย
   น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย
   น้ำแข็งบด


วิธีทำ               นำใบบัวบกสด ล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำด่างทับทิม 15-20 นาที ใส่ใบบัวบกลงในเครื่องปั่น เติมน้ำ กรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ เมื่อจะดื่มใส่น้ำแข็งบด

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ใบบัวบก

          บัวบก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Centella asiatica) เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในแถบเอเชีย ใบบัวบกสามารถช่วยรักษาแผลให้หายได้เร็วขึ้นและยังช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้ดี เพราะมีกรดมาเดคาสสิก กรดอะเซียติก และสารอะเซียติโคไซด์ ยาแผนปัจจุบันทำเป็นรูปครีมผงโรยแผล ยาเม็ดรับประทาน เพื่อใช้รักษาแผลสดและแผลผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นแผลไฟไหม้ หรือแผลฝีหนองหรือแผลสด โดยใช้ใบและต้นสดตำละเอียดคั้นน้ำทานวันละ 3 - 4 ครั้ง หรืออาจใช้กากพอกบริเวณแผลด้วยก็ดี
          สารสกัดด้วยน้ำของใบบัวบกที่มีความเข้มข้น 31.25 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรยับยั้งการเจริญของ Flavobacterium columnaris ในอาหารเลี้ยงเชื้อได้ บัวบกที่สกัดด้วยเอทานอล

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน  ในวันนี้เราจะมาทำน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่กันนะครับ  ส่วนข้อมูลของมะม่วงหาวมะนาวโห่


ส่วนผสม
มะม่วงหาวมะนาวโห่  20 ลูก
น้ำเปล่า  1 ลิตร
น้ำตาลทราย
เกลือ

วิธีทำ
               ล้างน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้สะอาด ผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก ปั่นมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้ละเอียด (หากไม่ชอบเนื้อมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้กรองเอาแต่น้ำ) เติมน้ำเปล่าต้มจนเดือด เติมน้ำตาล และเกลือเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ

มะม่วงหาวมะนาวโห่

          มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ คือ หนามแดง
          ย้อนอดีตไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ เรื่อง ‘นางสิบสอง’ และ ‘พระรถ-เมรี’ ที่ฉายให้ดูกันทางโทรทัศน์บ้านเรา นับเป็นละครยอดฮิตของผู้ชมทุกวัยตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงจนถึงปู่ย่าตายาย
          ละครเรื่องนี้สร้างจากตำนานพื้นบ้านเก่าแก่ ที่ดัดแปลงมาจากเรื่อง ‘รถเสนชาดก’ ซึ่งเป็นชาดก 1 ใน 50 เรื่องของปัญญาสชาดก หรือชาดกนอกนิบาต ที่แต่งเลียนแบบอรรถกถาชาดก เพื่อสอนศาสนา และเป็นชาดกเรื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีผู้นำไปเป็นต้นเค้าในการแต่งวรรณกรรมต่างๆ อีกมากมาย
          เรื่องนางสิบสอง และพระรถ-เมรี เป็นเรื่องราวของหญิงสาว 12 คนที่ถูกพ่อนำไปปล่อยในป่า เพราะคิดว่าเป็นกาลกิณีที่ทำให้ครอบครัวที่เคยเป็นเศรษฐีกลับยากจนลง นางทั้งสิบสองต้องเร่ร่อนไปจนกระทั่งไปถึงเมืองยักษ์ นางยักษ์จึงรับนางสิบสองเป็นน้อง ภายหลังนางสิบสองรู้ว่าพวกตนอยู่กับยักษ์ จึงหลบหนีไปเมืองกุตารนคร

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำลูกพลับปั่น

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอใช้ผลไม้จากเมืองจีน และยังเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทยของเราก็นิยมไม่น้อยเลย  กันนะครับ ผลไม้ที่ว่าก็คือ ลูกพลับ ครับ
           พลับ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในภาคเหนือของประเทศจีน มีการรับประทานพลับตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น และถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า พายหลังได้กระจายพันธุ์เข้าไปในญี่ปุ่น และกลายเป็นผลไม้ยอดนิยม
           พลับ เป็นผลไม้เปลือกมีสีเหลือง เนื้อหวาน กรอบ อร่อย และทำให้หลาย ๆ คนชื่นชอบ แม้จะเป็นผลไม้ที่ต้องนำเข้ามาจากประเทศจีน แต่ในปัจจุบันประเทศไทยก็มีการปลูกบ้างแล้วเช่นในจังหวัดเชีงราย แต่ผลที่ออกมาก็ยังไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมากนักเหมือนลูกพลับจากเมืองจีน
           พลับ มีประโยชน์มากมายหลายอย่าง ซึ่งผมก็จะขอกล่าวในหัวข้อ  คุณค่าทางโภชนาการ  ด้านล่างนี้นะครับ  ส่วนในวันนี้เราก็จะนำลูกพลับ มาทำน้ำผลไม้กัน  นั่นก็คือ น้ำลูกพลับปั่น ครับ พร้อมแล้วเรามาดูส่วนผสม และรองทำกันเลย

ส่วนผสม
   ลูกพลับสุก 2 ผล
   น้ำเชื่อม 1/3 ถ้วย
   เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
   น้ำต้มสุก 1 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
               ล้างลูกพลับให้สะอาด ปอกเปลือก ฝาน เอาแต่เนื้อ นำเนื้อลูกพลับมาใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก เกลือ น้ำเชื่อม ปั่นให้ละเอียด ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เทน้ำลูกพลับ ลงในแก้ว

พลับ

         พลับ (Persimmon) เป็นพืชในวงศ์ Edenaneae สกุล Diospyros มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Diospyros kaki ซึ่งมีอยู่หลายสปีชีส์ด้วยกัน พลับเป็นไม้ผลเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดอยู่ในภาคเหนือของจีน พลับเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่มีการเจริญเติบโตดี ลำต้นมีผิวหยาบกร้าน ขรุขระ สีนํ้าตาลแก่ ใบสีเขียวเป็นมันรูปหัวใจ ดอกคล้ายระฆังสีเหลืองอ่อน มีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย ส่วนดอกกระเทยนั้นพบน้อยมาก ลักษณะผลมีหลายแบบเช่น กลม กลมแบน กลมยาวคล้ายรูปกรวย ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อผลแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื้อผลจะแข็งเมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม ภายในมีเมล็ด 8 เมล็ด  เมล็ดสีนํ้าตาลแก่สามารถจำแนกประเภทได้ตามรสชาติของผล แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ
           1. พลับหวาน ผลสุกสีส้มอมเหลือง มีสหวานกรอบไม่ฝาดแม้จะเก็บมาจากต้น หรือรับประทานสดก็ได้ ได้แก่ พันธุ์ฟูยู ไลโอเปอเชียน ไจโร ซารูก้า
           2. พลับฝาด เมื่อผลยังไม่สุกจะมีรสฝาด  ผลสุกเนื้อสีส้มอมแดง เนื้อนิ่ม รสฝาด  หากจะรับประทานต้องนำไปผ่านกรรมวิธีการลดความฝาดเสียก่อน เมื่อผลสุกเต็มจะมีสีแดงส้ม เนื้อผลนิ่ม รสหวาน พันธุ์พวกนี้ได้แก่ ทานีนาชิ, ฮาชิยา, ซูรู ความฝาดนี้ก็เนื่องจาก แทนนิน ในเนื้อของผลนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำกีวีปั่น

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้เราก็จะมาใช้ผลไม้จากต่างประเทศทำน้ำผลไม้กันอีกครั้งก็แล้วกันนะครับ ผลไม้ที่ว่านี้ก็คือ ลูกกีวี ครับ
          กีวี แท้จริงแล้วเป็นผลไม้ที่มีถินกำเนิดในประทศจีนนะครับ อยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง แลถมันถูกเรียกว่า หมีโหวเถา ต่อมามีผู้นำไปปลูกที่นิวซีแลนด์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2449 และได้ปรับปรุงพันธุ์จนได้กีวีที่รสดีมากขึ้น จนกลายเป็นผู้ส่งออกกีวีรายใหญ่ที่สุดของโลก ในภายหลังชายชื่อ Jack Turner ได้เป็นคนที่ริเริ่มเรียก กีวี ว่า "kiwifruit" เมื่อราว พ.ศ. 2505 ซึ่แต่เดิมเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า  Chinese gooseberry เป็น กีวี ตามชื่อของนกกีวีที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ
          กีวี เป็นผลไม้ที่มีวิตามินหลายชนิดอยู่ในระดับที่สูงมาก มีเส้นใยอาหารอยู่มากทำให้กินแล้วอิ่มง่าย ทำให้ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และยังมีประโยชน์มากมายเลยนะครับ หาทุกท่านสนใจก็ตามไปอ่านได้จากข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของ กีวี กันได้เลยนะครับ
          ส่วนในวันนี้ผมจะขอเสนอวิธีทำน้ำปั่นจาก ลูกกีวี กันนะครับ นั้นก็คือ น้ำกีวีปั่น นั่นเองแหละครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูวิธีทำ น้ำกีวีปั่น กันเลย

กีวี

          กีวี หรือ กีวีฟรุต (Kiwifruit) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Actinidia chinensis เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน บริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง เรียกหมีโหวเถา ต่อมามีผู้นำไปปลูกที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อ พ.ศ. 2449 และได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ใหม่ทำให้กีวีมีรสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดและประเทศนิวซีแลนด์ ยังได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นกีวีตามชื่อของนกกีวีที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ซึ่งเดิมมีชื่อว่า Chinese gooseberry โดย Jack Turner เป็นคนที่เริ่มเรียกว่า "kiwifruit" เมื่อราว พ.ศ. 2505 สำหรับประเทศไทยมีการนำเข้ามาปลูกเมื่อปี พ.ศ.2519 โดยปลูกมากที่จังหวัดเชียงใหม่ ดอยอ่างขาง และดอยขุนวาง

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำแก้วมังกรปั่น

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้เราก็จะมาทำน้ำผลไม้กันอีกเช่นเคยนะครับ และในวันนี้เราจะใช้ผลไม้ที่คนไทยเรารู้จักกันดีเลยทีเดียวนะครับ นั่นก็คือ แก้วมังกร ไงล่ะครับทุกท่าน
         แก้วมังกร เป็นพืชในวงศ์ Cactaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับตะบองเพชร สกุล Hylocereanae แก้วมังกร มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่ในอเมริกากลาง เข้ามายังเอเชีย ในประเทศเวียดนาม โดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศส เมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้ว โดยปลูกมากตามแนวชายฝั่งทะเลตะวันออกจากเมืองญาตรังไปจนถึงไซ่ง่อน
          แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานสดก็ได้ หรือจะทำเป็นน้ำผลไม้ก็ได้เช่นกัน แก้วมังกรช่วยบรรเทาอาการรคความดันโลหิต ช่วยรักษาโรคเบาหวาน แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีแคลอลี่ต่ำใช้รับประทานแทนอาหารเพื่อลดความอ้วนได้ เพราะแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงมาก

แก้วมังกร


          แก้วมังกร มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Dragon Fruit เป็นพื้ชในวงศ์ Cactaceae หรือต้นตะบองเพชร ในสกุล Hylocereanae แก้วมังกร มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่ในอเมริกากลาง เข้ามายังเอเชียในประเทศเวียดนามก่อน โดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศสเมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้ว โดยปลูกมากตามแนวชายฝั่งทะเลตะวันออกจากเมืองญาตรังไปจนถึงไซ่ง่อน
          แก้วมังกรเป็นไม้เลื้อย มีลำต้นเมื่อโตแล้วประมาณ 5 เมตร มีรากทั้งในดินและรากอากาศ ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ชอบแสงแดดพอเหมาะ โล่งแจ้ง มีแสงแดดเข้าถึง แต่แสงแดดต้องไม่แรงจ้ามากเกินไป ดอกสีขาว ขนาดใหญ่กลีบยาวเรียงซ้อนกัน บานตอนกลางคืน  ผลแก้วมังกรมีรูปทรงเป็นทรงกลมรี มีสีของเปลือกผลตอนดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีแดงม่วง หรือสีบานเย็น มีกลีบเลี้ยงสีเขียวติดอยู่รอบผล ผลแก้วมังกรส่วนใหญ่มีน้ำหนักประมาณ 300 - 600 กรัม แก้วมังกรที่เนื้อด้านในเป็นสีขาวจะเป็นพันธุ์เวียดนามหรือพันธุ์ไทย แต่หากเนื้อเป็นสีแดงหรือสีชมพูจะเรียกว่า

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำฟักทอง

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้เราจะมาทำน้ำผักกันนะครับ ผักที่จะใช้ในวันนี้เป็นผักที่ใครๆ ก็รู้จัก และเป็นส่วนผสมในอาหาร หรือของหวานทั่วโลก มันก็คือ ฟักทอง ครับ
          ฟักทอง เป็นพืช เถาเลื้อยไปตามดิน มีหลากหลายพันธุ์ ทั่วโลก ฟักทองแบ่งเป็นตระกูลหลักได้สองตระกูล คือ ตระกูลฟักทองอเมริกัน (pumpkin) มีขนาดผลใหญ่ เนื้อยุ่ย และตระกูลสควอช (Squash) ได้แก่ฟักทองไทยและฟักทองญี่ปุ่น
          ฟักทอง มีคุณค่าทางอาหาร และประโยชน์มากมาย ซึ่งสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเรื่อง ฟักทอง นะครับ ส่วนในวันนี้ผมก็ขอเสนอวิธีการทำ น้ำฟักทอง ถ้าทุกท่านพร้อมแล้วเรามาดูส่วนผสม และรองทำ น้ำฟักทอง กันเลยครับ

ฟักทอง


          ฟักทอง เป็นพืชผักที่จัดอยู่ในกลุ่มพืชตระกูลแตง (Cucurbitaceae) ซึ่งได้แก่ ฟักทอง แตงกวา แตงร้าน ฟักแฟง มะระ บวบ แตงโม แคนตาลูป ฯลฯ เป็นพืชผักที่มีราคาถูก มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณและถนอมสายตา นำมาทำอาหารได้หลายชนิด เช่น ยอดอ่อนนำมาลวกจิ้มน้ำพริก หรือใส่แกงเลียง แกงส้มเปรอะ แกงส้ม เป็นต้น เนื้อใช้ทำอาหารได้ทั้งคาว-หวาน ทั้งผัด-แกง-ขนม และใช้เป็นอาหารเสริมในเด็กเล็ก รวมทั้งดัดแปลงมาใช้โรยหน้าหรือปนในขนมต่างๆ ทำให้มีสีสันสวยงาม และมีคุณค่าทางอาหารมากยิ่งขึ้น
          ฟักทองเป็นไม้เถาเลื้อยไปตามดิน มีมือสำหรับยึดเกาะ เช่นเดียวกับแตงโม ลำต้นอวบน้ำ ใบเดี่ยวรูปห้าเหลี่ยม มีขนทั้งสองด้าน ดอกสีเหลืองรูปกระดิ่ง มีทั้งดอกตัวผู้ และดอกตัวเมียจะแยกกันแต่อยู่ในต้นเดียวกัน ดังนั้น จึงต้องการช่วยผสมเกสร โดยวิธีธรรมชาติ เช่น ลมพัด หรือมีแมลงผสมเกสร หรือผู้ปลูกช่วยผสมเกสรเพื่อการติดผล

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำบีทรูท

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน วันนี้ผมจะขอใช้ผักจากต่างประเทศมาทำ น้ำผัก กันนะครับ นั้นก็คือ บีทรูท ครับ
          บีทรูท มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และแถบยุโรป ส่วนในประเทศไทย สามารถปลูกได้ทางภาคเหนือ และสามารถปลูกได้ตลอดปี ในพื้นที่สูงกว่า 1,000 เมตร ควรเป็นดินร่วนปนทราย มีความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 5.5-7.0 มีการระบายน้ำกับอากาศที่ดี โดยอุณหภูมิของดินต่อการงอกเมล็ดประมาณ 20 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่อการเจริญเติบโต อยู่ที่ประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส สามารถเก็บผลผลิตทั้งปีและมีมากในช่วงเดือนธันวาคม ถึง เดือนมีนาคม
          บีทรูท มีคุณค่าทางอาหาร และสรรพคุณมากมายเลยนะครับ หากสนใจ ก็สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเรื่อง บีทรูท นะครับ ถ้าจะอธิบายตรงนี้มันจะยืดยาวเกินป
          ส่วนวันนี้ผมก็ขอเสนอ น้ำบิทรูท นะครับ ไม้ต้องพูดอะไรมากถ้าพร้อมแล้วเรามาดูส่วนผสม และลองทำ น้ำบิทรูท กันเลยครับ

บีทรูท

          บีตรูต หรือชื่ออื่นเช่น ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง เป็นหัวพืชหรือรากที่สะสมอาหารที่อยู่ใต้ดิน เป็นพืชเมืองหนาวและเป็นผักเพื่อสุขภาพ มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด
          บีตรูตมีวิวัฒนาการมาจากป่า seabeet ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของชายฝั่งจากประเทศอินเดียไปยังประเทศอังกฤษ สองพันปีที่ผ่านมาก่อนที่จะถูกพัฒนาโดยเทคนิคการเพาะปลูกบีตรูตมีรากแครอทรูปและมีเพียงใบถูกกิน (รากเล็กๆ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อการรักษาโรคโดยชาวกรีกโบราณและโรมัน) มีความหลากหลายของลักษณะรากกลมได้รับการพัฒนาในรอบศตวรรษที่สิบหกและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรปสองสามร้อยปีต่อมา ในปัจจุบันนี้ บีตรูตเป็นหัวพืชใต้ดินปลูกมากในแถบยุโรปและถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในแถบสแกนดิเนเวียุโรปตะวันออกและรัสเซีย
          ลักษณะทั่วไปของบีทรูท ราก หรือเรียกว่า หัวใต้ดิน เป็นทรงกลมป้อม มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-5 ซม. ใช้รากสะสมอาหาร และมีเนื้อด้านในอวบน้ำ สีแดงเลือดหมู สีม่วงแดง สีเหลือง ใบเป็น ใบเดี่ยวเรียงตัวสลับกัน รูปCordate(cordata) (หัวใจรี) มีก้านยาว -ดอกเป็น ดอกเดี่ยว ออกเป็นช่อสีเขียวอ่อน ขนาดเล็ก ผลเป็น ผลขนาดเล็ก ถิ่นกำเนิด ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และแถบยุโรป ในประเทศไทย สามารถปลูกได้ทางภาคเหนือ
          สามารถปลูกได้ตลอดปีในพื้นที่สูงกว่า 1,000 เมตร ควรเป็นดินร่วนปนทราย มีความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 5.5-7.0 มีการระบายน้ำกับอากาศที่ดี โดยอุณหภูมิของดินต่อการงอกเมล็ดประมาณ 20 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่อการเจริญเติบโตประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส สามารถเก็บผลผลิตทั้งปีและมีมากในช่วงเดือนธันวาคม ถึง เดือนมีนาคม (จากวิกิพีเดีย)
          บีทรูท นอกจากกินเป็นผักสลัด หรือ ดองไว้ผัดกับเนื้อ ต้มหรือดองสามรสเป็นเครื่องเคียงสเต๊กหรือพาสต้า หรือกินกับเนย ทำซุป สีสันของบีทรูทยังใช้ตกแต่งอาหารให้มีสีสัน หรือใช้แทนสีผสมอาหาร ทำขนม หุงกับข้าว แต่ที่นิยมมากคือนำไปคั้นด้วยเครื่องแยกกาก ผสมกับผักผลไม้อื่น หรือเดี่ยวๆ เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ส่วนใบบีทรูทก็กินได้ เลือกเฉพาะใบอ่อน กินสดๆ มีวิตามินเอสูง
          บีทรูทเป็นผักเพื่อสุขภาพโดยแท้จริง ด้วยสารอาหารหลายชนิดที่มีอยู่ ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม เหล็ก ทั้งให้วิตามินซีสูง วิตามินเอ บี 1 บี 2 และ สารสีแดงในหัวบีทรูท คือเบทานิน (betanin) เป็น กรดอะมิโนที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง ทั้งบีทรูทยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย บำรุงเลือด ทำให้การไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี บำรุงตับ ไต ถุงน้ำดี เป็นอาหารล้างพิษโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ติดสุราเรื้อรัง เป็นยาระบาย แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยการเจริญอาหารและแก้บิด แก้ปวดหัว ปวดฟัน ขับปัสสาวะ ลดอาการบวม
          ปัจจุบันพบว่าหัวบีทรูทถูกนำไปใช้เป็นโภชนาบำบัด ช่วยรักษาผู้ที่เป็นสิวชนิดมีหนองหรือสิวอักเสบ น้ำเหลืองเสีย วิธีคือเอาหัวสดของบีทรูท จำนวน 1 หัว ต้มกับน้ำพอประมาณจนเดือด ไม่ต้องเติมอะไรลงไป ดื่มขณะอุ่น หรือจะกินเนื้อด้วยก็ได้ ช่วยบำบัดอาการสิวอักเสบหรือน้ำเหลืองเสียได้ ไม่ต้องกินประจำแต่ต้องกินเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นว่าสิวอักเสบหรือน้ำเหลืองเสียค่อยๆ ดีขึ้นและหายได้

น้ําผลไม้ที่แนะนำ
- น้ำบีทรูท

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำชมพู่ปั่น

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้เราจะมาทำน้ำผลไม้จากผลไม้พื้นบ้าน ที่ไม่พื้นบ้านซักเท่าไหล่กันนะครับ
          ผลไม้ที่ว่าก็คือ ชมพู่ ครับ ที่ว่ามันไม่พื้นบ้านซักเท่าไหล่ก็เพราะว่า ชมพู่ ที่มีสีเขียว กับสีแดง ที่เรารู้จัก และกินกันมาตั้งแต่เด็กนั้น มันเป็นผลไม้ที่ประเทศไทยเรานำเข้ามาปลูก โดยได้นำพันธุ์มาจากอินโดนีเซีย กับมาเลเชีย นั้นเอง ส่วนชมพู่ที่เป็นพันธุ์ของประเทศไทยเราแท้ ๆ ก็คือ ชมพู่น้ำดอกไม้  ที่มีกลิ่นหอม แต่เนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ รสก็ออกเปรี้ยวอมหวาน ไม่หวานกรอบเหมือนชมพู่ สีแดง กับสีเขียวที่วางขายทั่วไป

           ชมพู่ มีประโยชน์มากมายนะครับ จะพูดตรงนี้ก็คงจะยาวเกินไป ผมจึงขอให้ทุกท่านรองเข้าไปอ่านในข้อมูลเพิ่มเติม เรื่อง ชมพู่ กันนะครับ ส่วนในวันนี้ผมขอเสนอการทำ น้ำชมพู่ ครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูส่วนผสม และลองทำ น้ำชมพู่ กันเลยครับ

ชมพู่

          ชมพู่ มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ได้แก่ ชมพู่เพชรสุวรรณ, ชมพู่เพชรสายรุ้ง, ชมพู่เพชรน้ำผึ้ง, ชมพู่ทับทิมจันทร์, ชมพู่ทูลเกล้า, ชมพู่น้ำดอกไม้, เป็นต้น มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า โรซี่แอปเปิ้ล (Rosoe apple)
          ชมพู่ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ยูจีเนีย จาวานิคา (Eugenia Javanica) จัดอยู่ในวงศ์ ไมร์ทาซีอี้ (Myrtaceae) ชมพู่ จัดเป็นไม้ผลที่นิยมบริโภคกันโดยทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บริโภคกันภายในประเทศทั้งนี้เนื่องจาก ชมพู่เป็นผมไม้ที่ช้ำง่ายและอายุเก็บรักษาค่อนข้างสั้น ปริมาณผลผลิตยังไม่มากนัก จึงมีการส่งออกเพียงเล็กน้อย ตลาดจะอยู่ในแถบเอเชีย
          ลักษณะของต้นชมพู่ ชมพู่เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ทรงพุ่ม ใบหนาเป็นมันใบโตพอสมควร ดอกจะบานออกมาเป็นฝอยฟูคล้ายกับดอกกระถิน มีสีขาวสีเขียวใบไม้ สีชมพูอ่อนๆผสมผสานกันอยู่ ผลชมพู่ลักษณะกลม แป้น สีเขียวทางขั้วเล็ก เมล็ดในเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีเยื่อใยฟูนิ่มอยู่ภายนอก การปลูก ปลูกง่าย

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำใบเตย

          สวัสดีครับผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอใช้สิ่งที่ขาดไม่ได้ในขนมไทย และอาหารไทย หลายชนิดกันนะครับ นั่นก็คือ ใบเตย
          เตย หรือเตยหอม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pandanus amaryllifolius เป็นไม้ยืนต้นพุ่มเล็ก ขึ้นเป็นกอ ลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ใบเป็นทางยาว สีเข้ม ค่อนข้างแข็ง เป็นมัน ขอบใบเรียบ ในใบมีกลิ่นหอม จากน้ำมันหอมระเหย ที่เรียกว่า Fragrant Screw Pine สีเขียวของใบเป็นสีจากคลอโรฟิลล์
          ใบเตย มีสรรพคุณหลายอย่าง เช่น ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เพราะใบเตยมีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงช่วยบำรุงหัวใจได้อย่างดี วิธีรับประทานคือ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง, ช่วยดับกระหาย เนื่องจากใบเตยมีกลิ่นหอมเย็น หากนำมาผสมน้ำรับประทาน จะช่วยดับกระหาย คลายร้อน ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ และชุ่มคอได้เป็นอย่างดี วิธีรับประทานก็คือ นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม และช่วยรักษาโรคหัด หรือ โรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว
          ส่วนในวันนี้ผมก็ขอเสนอวิธีการทำ น้ำใบเตย ซึ่งก็มีประโยชณ์ตามที่ได้เขียนไว้ในหัวข้อ คุณค่าทางโภชนาการกันนะครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูวิธีทำกันเลย

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ใบเตย

          เตยหอม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pandanus amaryllifolius เป็นไม้ยืนต้นพุ่มเล็ก ขึ้นเป็นกอ ลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ใบเป็นทางยาว สีเข้ม ค่อนข้างแข็ง เป็นมัน ขอบใบเรียบ ในใบมีกลิ่นหอม จากน้ำมันหอมระเหย ที่เรียกว่า Fragrant Screw Pine สีเขียวของใบเป็นสีจากคลอโรฟิลล์ ใช้ในการแต่งสีขนม
          ในบังกลาเทศเรียกว่า ketaki ใช้เพิ่มกลิ่นหอมของ ข้าวพิลาฟ หรือข้าวปุเลา บิรยานี และพุดดิ้งมะพร้าว payesh ในอินโดนีเซียเรียก pandan wangi พม่าเรียก soon-mhway ในศรีลังกาเรียก rampe ในเวียดนามเรียก lá dứa ใบใช้ได้ทั้งใบสดและใบแห้ง และมีขายในรูปใบแช่แข็งในประเทศที่ปลูกไม่ได้ ใช้ปรุงกลิ่นในอาหารของหลายประเทศเช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย บังกลาเทศ เวียดนาม จีน ศรีลังกา และพม่า โดยเฉพาะข้าวและขนม
          การใช้ เช่น นำไปขยำกับกะทิ ใส่ในภาชนะหุงต้ม ไก่ใบเตยเป็นการนำใบเตยมาห่อไก่แล้วนำไปทอด ใช้แต่งกลิ่นเค้กใบเตย และของหวานอื่นๆ ในฟิลิปปินส์ใช้เตยหอมแต่งกลิ่นในสลัดที่เรียก buko pandan
          กลิ่นหอมของใบเตยเกิดสารเคมีที่เรียก 2-acetyl-1-pyrroline ซึ่งเป็นกลิ่นแบบเดียวกับที่พบในขนมปังขาว ข้าวหอมมะลิและดอกชมนาด มีสารสกัดจากใบเตยขาย ซึ่งมักจะแต่งสีเขียว ใบใช้ไล่แมลงสาบได้

น้ําผักที่แนะนำ
- น้ำใบเตย

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำแตงกวาปั่น


          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอนำเสนอการทำน้ำผักแทนนะครับ และจำขอใช้ผักที่เป็นเครื่องเคียงที่นิยมที่สุด นั่นก็คือ แตงกวา ครับ
          แตงกวา เป็นไม้เลื้อยตระกูลเดียวกันกับแตงโม ฟักทอง บวบ มะระ และน้ำเต้า นิยมปลูกเพื่อนำผลมาใช้เป็นอาหาร มีอายุตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 30-45 วัน
          แตงกวา สามารถนำไปปรุงอาหารได้มากมายหลากหลายชนิด เช่น แกงจืด ผัด กินกับน้ำพริก หรืออาจแปรรูปเป็นแตงกวาดองก็ได้ และในวันนี้ผมจึงจะนำแตงกวามาทำเป็นน้ำผักเพื่อสุขภาพ นั่นก็คือ น้ำแตงกวาปั่น ไงล่ะครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำ น้ำแตงกวาปั่น กันเลยดีกว่าครับ

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แตงกวา

          แตงกวา เป็นไม้เลื้อยในวงศ์ Cucurbitaceae ตระกูลเดียวกันกับแตงโม ฟักทอง บวบ มะระ น้ำเต้า นิยมปลูกเพื่อนำผลมาใช้เป็นอาหาร มีอายุตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 30-45 วัน
          แตงกวาสามารถนำไปปรุงอาหารได้มากมายหลากหลายชนิด เช่น แกงจืด ผัด กินกับน้ำพริก หรืออาจแปรรูปเป็นแตงกวาดองก็ได้
          แตงกวามีรากแก้ว แตกแขนงเป็นจำนวนมาก รากของแตงกวาสามารถแผ่ทางด้านกว้าง และหยั่งลึกได้มากถึง 1 เมตร ลำต้นเป็นเถามีขนขึ้นปกคลุมทั่วไป มีข้อยาว 10 ถึง 20 เซนติเมตร มีหนวดเกาะบริเวณข้อโดยส่วนปลายของหนวดจะไม่มีการแตกแขนง ใบมีก้านใบยาวประมาณ 5 - 15 เซนติเมตร ใบหยาบมีขนที่ใบ

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำพุทราจีน


          สวัสดีครับ ท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในครั้งนี้ผมก็คงยังนำผลไม้จากประเทศจีนมานำเสนอกันอีกชนิดหนึ่งนะครับ นันก็คือ พุทราจีน นะครับ
         พุทราจีน เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ในวงศ์ Rhamnaceae เป็นไม้ยืนต้นมีหนาม มักมีเป็นคู่ มีลักษณะตรงทั้งสองอัน หรือตรงอันหนึ่ง โค้งอันหนึ่ง ผลมีเมล็ดเดียว ผลมีผิวเรียบ ส่วนใหญ่ผลสุกจะมีสีเหลือง  ยกเว้นบางพันธุ์จะเป็นสีแดงเข้ม พุททราจีนมีทั้งพันธุ์ผลเล็กและผลใหญ่
          ในวันนี้ผมจึงขอเสนอ น้ำพุทราจีน ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำ น้ำพุทราจีน กันเลย

พุทราจีน


          พุทราจีน มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Jujube  พันธุ์ที่มีเปลือกสีน้ำตาลเข้ม ในภาษาอังกฤษเรียกว่า red date หรือ Chinese date และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ziziphus mauritiana ในประเทศไทย มีการเรีกแตกต่างไปตามภูมิภาค เช่น ภาคอีสานเรียกว่า บักทัน หรือหมากกะทัน ในภาคเหนือเรียกมะตัน มะตันหลวง หรือนางต้มต้น ส่วนในประเทศจีนจะเรียกว่า เป้กเลี้ยบ ในอินเดียจะเรียกว่า เบอร์
          พุทราจีน เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ในวงศ์ Rhamnaceae เป็นไม้ยืนต้นมีหนาม มักมีเป็นคู่ โดยตรงทั้งสองอัน หรือตรงอันหนึ่ง โค้งอันหนึ่ง ผลมีเมล็ดเดียว ผิวเรียบ ส่วนใหญ่ผลสุกจะมีสีเหลือง  ยกเว้นบางพันธุ์จะเป็นสีแดงเข้ม พุททราจีนมีทั้งพันธุ์ผลเล็กและผลใหญ่

น้ำบ๊วย


          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอแนะนำผลไม้จากประเทศจีนกันนะครับ นั่นก็คือ บ๊วย นะครับ
          บ๊วย เป็นผลไม้ที่อยู่ในสกุล Prunus มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และพบได้ในประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ลาว และไต้หวัน ส่วนในประเทศไทยนิยมปลูกบริเวณภาคเหนือของประเทศซึ่งได้นำพันธุ์มาจากะเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน
          บ๊วย มีลักษณะดังนี้ ใบมีขนาดเล็ก สีเขียวอมเทา ขอบใบหยักฟันเลื่อย ดอกมีกลิ่นหอม สีขาวหรือชมพู ผลเล็ก ทรงกลม เมื่อผลยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกผลจะมีสีเหลือง เนื้อนิ่ม รสเปรี้ยวอมหวาน เมล็ดแข็ง
          บ๊วย มีสรรพคุณหลายอย่าง และสามารถนำเอาผลมาแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น นำมาทำน้ำบ๊วย ช่วยแก้กระหายน้ำ ป้องกันการอ่อนเพลียเนื่องจากการเสียเหงื่อได้ดี นำบ๊วยมาแช่อิ่ม ทำเป็นบ๊วยดอง บ๊วยเค็ม ทำเป็นน้ำจิ้มบ๊วย ซอสบ๊วย และทำปลานึ่งบ๊วย เป็นต้น
          ในวันนี้ผมจึงขอเสนอวิธีทำ น้ำบ๊วย กันนะครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำ น้ำบ๊วย กันเลย

บ๊วย

          บ๊วย ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Chinese plum, Japanese apricot ในภาษาจีน แรียกว่า 梅 ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า ウメ ในภาษาเกาหลี เรียกว่า 매실나무 ในภาษาเวียดนาม เรียกว่า Mai mơ และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Prunus mume เป็นผลไม้ที่อยู่ในสกุล Prunus มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และพบได้ในประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ลาว และไต้หวัน ส่วนในประเทศไทยนิยมปลูกบริเวณภาคเหนือของประเทศ เช่น ดอยอ่างขาง ในโครงการหลวง โดยได้นำพันธุ์มาจากะเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน
          บ๊วย มีลักษณะต้น ดังนี้ ใบมีขนาดเล็ก สีเขียวอมเทา ขอบใบหยักฟันเลื่อย ดอกมีกลิ่นหอม สีขาวหรือชมพู ผลเล็ก ทรงกลม เมื่อผลยังอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกผลจะมีสีเหลือง เนื้อนิ่ม รสเปรี้ยวอมหวาน เมล็ดแข็ง

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำแครอทปั่น

          สวัสดีครับผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอใช้ผักกันนะครับ ซึ่งผักที่ใช้ก็เป็นผักที่ทุกคนรู้จักกันดีนะครับ เพราะมันเป็นผักที่มีขายทั่วไป และก็เป็นผักที่คนไทย และต่างประเทศ นิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายชนิด ส่วนในวันนี้เราก็จะมาทำน้ำผักกันนะครับ ผักที่ว่าก็คือ แครอท ครับ 
          แครอท เป็นพืชกินหัวที่มีลักษณะรูปสามเหลี่ยมยาว หรือทรงกระบอก หัวแครอทที่เรากินคือรากแก้วซึ่งเป็นรากสะสมอาหารนั่นเอง เชื่อกันหรือไม่ว่าแครอทมีต้นกำเนิดจาก แครอทป่าที่มีหัวสีม่วง มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอัฟกานิสถาน และต่อมาแครอทก็พันธุ์เป็น แครอทสีเหลือง ซึ่งกลายพันธุ์มาจากพวกแครอทหัวสีม่วง ต่อมาในทวีปยุโรป ได้ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์ จนได้เป็นพันธุ์สีส้ม ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้ และแครอทสีส้มนี้มีรสชาดที่อร่อยกว่า มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าแครอทพันธ์ดั่งเดิมอีกด้วย
          ส่วนในวันนี้ผมก็จะมาแนะนำการทำน้ำผักจาก แครอท กันนะครับ นั่นก็คือ น้ำแครอทปั่น ครับ อ้อเกือบลืมไปน้ำผักชนิดนี้เราจะใส่ น้ำมะนาว เพิ่มลงไปด้วยนะครับ ซึ่งมันจะช่วยทำให้มีรสชาดที่ดีขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อพร้อมกันแล้วเรามาเริ่มทำ  น้ำแครอทปั่น กันเลย

แครอท

          แครอท มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Carrot เป็นพืชกินหัวชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นหัวใต้ดินมีขนาดยาว หัวแครอทมีหลายสี เช่น เหลือง ม่วง ส้ม แล้วแต่พันธุ์ของแครอท ที่นิยมรับประทานในปัจจุบันก็แครอทที่มีสีส้ม เป็นพืชในแถบเอเชียตะวันออก และเอเชียกลาง มีหลายขนาด เริ่มตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าแท่งดินสอ ที่เรียกว่าเบบี้แครอท เขียนในภาษาอังกฤษว่า Baby Carrot ไปจนถึง ที่มีขนาดใหญ่
          แครอท เป็นพืชในวงศ์เดียวกับผักชี และพืชที่ใช้เป็นเครื่องเทศหลายชนิด เช่น ยี่หร่า พาสลี (parsley) และขึ้นฉ่าย (celary) และมีลักษณะสำคัญของพืชในวงศ์นี้ คือ มีช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม หัวแครอทที่เรากินคือรากแก้วซึ่งเป็นรากสะสมอาหารนั่นเอง
          คุณเชื่อหรือไม่ว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้น แครอทป่ามีหัวสีม่วง และมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอัฟกานิสถาน นอกจากนี้ยังมีแครอทสีเหลืองซึ่งกลายพันธุ์มาจากพวกแครอทหัวสีม่วง ในเวลาต่อมาได้ผ่านการคัดเลือกพันธุ์ในทวีปยุโรป จนได้เป็นพันธุ์สีส้มซึ่งอร่อยกว่า มีคุณค่าทางอาหารมากกว่า และเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้
          แครอทเป็นไม้ล้มลุกมีอายุประมาณ 2 ปี ต้นแครอทมีลักษณะตั้งตรง รากแก้วอวบหนา รูปสามเหลี่ยม หรือรูปทรงกระบอก สีส้ม สีม่วงปนแดง สีเหลือง หรือสีขาว

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำแคนตาลูป


          สวัสดีครับผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอใช้ผลไม้จากต่างประเทศในการทำน้ำผลไม้กันนะครับ นั่นก็คือ แคนตาลูป
          แคนตาลูป เดิมเป็นผลไม้พื้นเมืองของประเทศอินเดีย ต่อมาถูกนำไปปลูก ณ เมือง "แคนตาลูป" ที่อยู่ใกล้กับกรุงโรม ประเทศอิตาลี มันจึงถูกเรียกตามชื่อเมืองว่า "แคนตาลูป"
          แคนตาลูป มีลักษณะทั่วไป ดังนี้
คล้ายๆ กับ แตงไทย ผลกลม ผิวของผลมีหลายสี เช่น มีสีเขียว มีสีน้ำตาลคล้ำ มีสีเหลือง หรือสีขาว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ ผิวของผลมีลักษณะหยาบ มีเปลือกแข็ง มีร่องลึกรอบๆ ผล เปลือกมีลายคล้ายร่างแห หรือตาข่ายสีขาว หรือบางพันธุ์ก็มีเหมือนฟางแห้งคลุมตลอดทั้งผล แต่บางพันธุ์ก็มีผิวเรียบๆ เมื่อสุกเนื้อในจะมีสีส้ม หรือสีจำปา มีกลิ่นหอม รสชาดหวาน พูดมาถึงตรงนี้แล้วในวันนี้ผลก็คงต้องขอนำเสนอ น้ำแคนตาลูป เมื่อพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำ น้ำแคนตาลูป กันเลยดีกว่าครับ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แคนตาลูป

          แคนตาลูป ในภาษาอังกฤษเขียนว่า Cantaloupe และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis melo L. var. cantaloupensis แคนตาลูปมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินเดีย ต่อมามีผู้นำเอาไปปลูกที่เมือง "แคนตาลูป" ที่อยู่ใกล้กับกรุงโรม ประเทศอิตาลี มันจึงถูกเรียกชื่อว่า "แคนตาลูป"
          แคนตาลูปได้ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2478 โดยำด้นำมาปลูกที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ได้ผลเนื่องจากเป็นโรคตายเป็นส่วนมาก ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2493 - 2499 ได้นำมาทดลองปลูกที่เกษตรกลางบางเขน หรือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน ผลปรากฏว่าได้ผลดี โดยเฉพาะแคนตาลูปพันธุ์ริโอโกลด์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ผลมีน้ำหนักสูงสุดถึง 4 กิโลกรัม จึงได้มีการขยายการปลูกออกไปเรื่อยๆ แต่ก็เพิ่งได้ผลดี และปลูกกันเป็นอาชีพ แคนตาลูปจึงเป็นผลไม้ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของคนไทย แหล่งที่ปลูกแคนตาลูปได้ผลดีในปัจจุบันของประเทศไทยนี้ คือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร และที่จังหวัดเชียงใหม่

          แคนตาลูป มีลักษณะทั่วไปคล้ายๆ กับ แตงไทย คนไทยบางกลุ่มจึงเรียกว่า แตงเทศ แตงฝรั่ง หรือแตงไทยฝรั่ง มีลักษณะผลกลม ผิวของผลมีหลายสี เช่น มีสีเขียว มีสีน้ำตาลคล้ำ มีสีเหลือง หรือสีขาว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ ผิวของผลมีลักษณะหยาบ มีเปลือกแข็ง มีร่องลึกรอบๆ ผล เปลือกมีลายคล้ายร่างแห หรือตาข่ายสีขาว หรือบางพันธุ์ก็มีเหมือนฟางแห้งคลุมตลอดทั้งผล บางพันธุ์ก็ไม่มี บางพันธุ์มีผิวเรียบๆ เมื่อสุกเนื้อในมีสีส้ม

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำกระเจี๊ยบแดง


          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในครั้งนี้ผมก็จะมาพูดถึง กระเจี๊ยบแดง กันนะครับ กระเจี๊ยบแดง เป็นพืชสมุนไพร มีหลายพันธุ์ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 1.5 - 3 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหลายลักษณะด้วยกัน ขอบใบเรียบ บางก็มีรอยหยักเว้า 3 หยัก สีของดอกเป็นสีชมพู ตรงกลางดอกมีสีเข้มมากกว่าขอบนอกของกลีบ กลีบดอกร่วงโรยไป กลีบรองดอก และกลีบเลี้ยงก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีกและจะลักษณะเป็นสีม่วงแดงเข้ม หุ้มเมล็ดเอาไว้อยู่ภายใน ส่วนสำคัญที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือ กลีบรองดอก และกลีบเลี้ยง ซึ่งมันมีสรรพคุณหลายอย่าง เช่น ลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดน้ำหนักด้วย, ลดความดันโลหิตโดยไม่มีผลร้ายต่อร่างกาย, ช่วยทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลง, ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดแข็งเปราะได้ดี, มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เป็นการช่วยลดความดันอีกทางหนึ่ง, ช่วยย่อยอาหาร เพราะไม่เพิ่มการหลั่งของกรดในกระเพาะ, เพิ่มการหลั่งน้ำดี และเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพราะมีกรดซีตริค และในวันนี้เราจะมาใช้ กลีบรองดอก และกลีบเลี้ยง ของ กระเจี๊ยบแดง ในการทำ น้ำกระเจี๊ยบแดง กันนะครับ เมื่อพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำ น้ำกระเจี๊ยบแดง กันเลยครับ

กระเจี๊ยบแดง

          กระเจี๊ยบแดง เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 1.5 - 3 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหลายลักษณะด้วยกัน ขอบใบเรียบ บางก็มีรอยหยักเว้า 3 หยัก สีของดอกเป็นสีชมพู ตรงกลางดอกมีสีเข้มมากกว่าขอบนอกของกลีบ กลีบดอกร่วงโรยไป กลีบรองดอก และกลีบเลี้ยงก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีกและจะลักษณะเป็นสีม่วงแดงเข้ม หุ้มเมล็ดเอาไว้อยู่ภายใน และมันยังเป็นพืชสมุนไพรอึกด้วย
          การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ด้วยการใช้เมล็ดปลูก ซึ่งควรปลูกในหน้าฝน และพรวนดินก่อนปลูก การขุดหลุมปลูกควรใส่หลุมละ 2-3 เมล็ด ระยะห่างของหลุมอยู่ที่ประมาณ ½ - 1 เมตร เมื่อต้นอ่อนงอกออกมาแล้ว ควรถอนต้นที่อ่อนแอกว่าออกไปเอาต้นที่แข็งแรงไว้ รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย และกำจัดวัชพืชออกให้หมด
          กระเจี๊ยบแดงยังมีชื่อเรียกตามภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย เช่น ในภาคเหนือ จะเรียกว่า ผักเก็งเค็ง ส้มเก็งเค็ง และเงี้ยว,  ในแม่ฮ่องสอน จะเรียกว่า ส้มปู, ในจังหวัดตาก จะเรียกว่า ส้มตะแลงเครง, ในภาคกลาง จะเรียกว่า กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบเปรี้ยว เป็นต้น

น้ำมะตูม

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้เราจะมาใช้ผลไม้ที่ผ่านกระบวนการตากแห้ง หรืออบแห้ง ในการทำน้ำผลไม้กันนะครับ และในวันนี้จะขอใช้ มะตูมตากแห้งกันนะครับ ซึ่ง มะตูม  นี้เป็นไม้ผลยืนต้นพื้นเมืองในพื้นที่ป่าดิบ ลำต้นของ มะตูม มีความสูงประมาณ 18 เมตร มีหนามแหลมอยู่ทั่วไป ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยรูปไข่หรือรูปหอกมี 3 ใบ ดอกมีสีขาวหรือขาวอมเขียว มีกลิ่นหอม ผลมีเปลือกแข็งเรียบ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-15 เซนติเมตร เนื้อผลมีลักษณะเหนียวข้น มีกลิ่นหอม และมีเมล็ดจำนวนมากแทรกอยู่ในเนื้อผล โดยเมล็ดจะมีขนหนาปกคลุม ผลอ่อนนำมาฝาน ตากแห้งนำไปต้มกับน้ำ จะเรียกว่า น้ำมะตูม และในวันนี้ผมก็ขอเสนอการทำ น้ำมะตูม  ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นที่ว่าจะขอใช้ มะตูมตากแห้งมาทำน้ำผลไม้กันนะครับ พร้อมแล้วเรามาเริ่มดูส่วนผสม และเริ่มทำ น้ำมะตูม กันเลยครับ

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มะตูม

          มะตูม มีชื่อในอังกฤษว่า Bael และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Aegle marmelos ในประเทศไทยมีการเรียกชื่อของ มะตูม แตกต่างกันไปตามภูมิภาค ดังนี้ ภาคเหนือเรียกว่า มะปิน, ภาคใต้เรียกว่า กะทันตาเถร ตูม และตุ่มตัง, ภาคอีสานเรียกว่า หมากตูม ในภาษาเขมรเรียกว่า พะโนงค์ ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า มะปีส่า
          มะตูม เป็นไม้ผลยืนต้นพื้นเมืองในพื้นที่ป่าดิบ มักเติบโตอยู่ในบริเวณบนเนินเขา ที่ราบในอินเดียตอนกลางและตอนใต้ และยังมีในพม่า ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล เวียดนาม ลาว และกัมพูชา มีการนำมาเพาะปลูกทั่วไปในอินเดีย รวมทั้งในศรีลังกา แหลมมลายูตอนเหนือ เกาะชวา และฟิลิปปินส์ จัดเป็นพืชเพียงสปีชีส์เดียวที่อยู่ในจีนัส Aegle
          ลำต้นของ มะตูม มีความสูงประมาณ 18 เมตร มีหนามแหลมอยู่ทั่วไป ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยรูปไข่หรือรูปหอกมี 3 ใบ หากมองดูก็จะคล้ายกับตรีศูลของพระศิวะ ดอกมีสีขาวหรือขาวอมเขียว มีกลิ่นหอม ผลมีเปลือกแข็งเรียบ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-15 เซนติเมตร บางผลมีเปลือกแข็งมากจนต้องกระเทาะเปลือกออกโดยใช้ค้อนทุบ เนื้อผลมีลักษณะเหนียวข้น มีกลิ่นหอม และมีเมล็ดจำนวนมากแทรกอยู่ในเนื้อผล

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำส้มคั้น

          สวัสดีครับผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน วันนี้เราจะมาคั้นน้ำผลไม้กันนะครับ วันนี้ก็เลยจะขอใช้ผลไม้ที่มีขายกันทั่วไป คือมีให้รับประทานตลอดทั้งปี และเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดด้วย นั่นก็คือ ส้ม ไงล่ะครับ ส้ม เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว, เปรี้ยวอมหวาน ไปจนถึงหวาน ส้มมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล ซึ่งจะมีกลิ่นฉุน ส้ม เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย ที่เด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นวิตามินซี ซึ่สูงมากกว่าผลไม้หลายชนิด (อันนี้ผมว่าทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว) และยังมีแคลเซียม โปแทสเซียม วิตามินเอ เบต้าแคโรทีนอีกด้วย ทำให้ในวันนี้ผมจึงขอเสนอ น้ำส้มคั้น กันนะครับผม ถ้าพร้อมแล้วเราก็มาดูวิธีทำ น้ำส้มคั้น และลองทำกันเลยดีกว่าครับ พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย

ส้ม

          ส้ม เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ใบเป็นใบเลี้ยงคู่ สกุล Citrus วงศ์ Rutaceae มีด้วยกันหลายร้อยชนิด มีพันธุ์ต่าง ๆ อยู่ทั่วโลก โดยมากจะมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล และมีกลิ่นฉุน ถ้านำใบขึ้นส่องกับแสงอาทิตย์จะเห็นจุดเล็กๆ มากมายเต็มไปหมด ซึ่งจุดเหล่านั้นก็คือแหล่งน้ำมันนั่นเอง ส้มในหลายชนิดรับประทานได้ ผลมีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักมีส่วนประกอบ ดังนี้ แคลเซียม โปแทสเซียม วิตามินเอ และวิตามินซี มากเป็นพิเศษ หากผลไม้จำพวกนี้มีคำว่า มะ นำหน้า ต้องตัดคำว่า ส้ม ออก เช่น มะนาว มะกรูด
          อนุกรมวิธานของส้มนั้น มีความยุ่งยาก และสับสนมาช้านานแล้ว และยังเป็นที่ถกเถียงในการจำแนก

น้ำเชอรี่



          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในครั้งนี้ผมก็จะมานำเสนอน้ำผลไม้กันอีกแล้วนะครับ ซึ่งผลไม้ที่ใช้ก็จะเป็นผลไม้ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี นั่นก็คือ เชอรี่ ครับ
          เชอร์รี เป็นไม้พุมขนาดกลาง ชอบอากาศหนาวเย็น ใบเขียวเข้ม ดอกสีขาวอมชมพู ผลกลมขนาดเล็ก
          ต้นเชอร์รีสามาถ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
          - เชอร์รีหวาน
          - เชอร์รีหวานอมเปรี้ยว
          แหล่งที่ปลูกเชอร์รี่มากที่สุด คือ ทวีปอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และญี่ปุ่น
          เชอร์รี่ที่นิยมนำผลมาบริโภคมากที่สุด คือเชอร์รีป่า
          เอาล่ะครับ วันนี้ผมขอเสนอ น้ำเชอรี่ กันนะครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูส่วนผสม และวิธีทำ น้ำเชอรี่ กันเลย