สวัสดีครับผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอใช้สิ่งที่ขาดไม่ได้ในขนมไทย และอาหารไทย หลายชนิดกันนะครับ นั่นก็คือ ใบเตยเตย หรือเตยหอม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pandanus amaryllifolius เป็นไม้ยืนต้นพุ่มเล็ก ขึ้นเป็นกอ ลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ใบเป็นทางยาว สีเข้ม ค่อนข้างแข็ง เป็นมัน ขอบใบเรียบ ในใบมีกลิ่นหอม จากน้ำมันหอมระเหย ที่เรียกว่า Fragrant Screw Pine สีเขียวของใบเป็นสีจากคลอโรฟิลล์
ใบเตย มีสรรพคุณหลายอย่าง เช่น ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เพราะใบเตยมีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงช่วยบำรุงหัวใจได้อย่างดี วิธีรับประทานคือ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง, ช่วยดับกระหาย เนื่องจากใบเตยมีกลิ่นหอมเย็น หากนำมาผสมน้ำรับประทาน จะช่วยดับกระหาย คลายร้อน ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ และชุ่มคอได้เป็นอย่างดี วิธีรับประทานก็คือ นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม และช่วยรักษาโรคหัด หรือ โรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว
ส่วนในวันนี้ผมก็ขอเสนอวิธีการทำ น้ำใบเตย ซึ่งก็มีประโยชณ์ตามที่ได้เขียนไว้ในหัวข้อ คุณค่าทางโภชนาการกันนะครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูวิธีทำกันเลย
ส่วนผสม
ใบเตย 3 ถ้วย
น้ำสะอาด 8 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
น้ำแข็งบดวิธีทำ
นำใบเตยสดที่ไม่แก่มาก เก็บมาใหม่ ๆ ล้าง ทีละใบให้สะอาด แช่น้ำด่างทับทิม 10-15 นาที นำมาปั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็ก ๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งใส่ลงในหม้อ ที่มีน้ำกำลังเดือดต้มเคี่ยว 5-10 นาที เติม น้ำตาลทรายให้รสหวานจัด กรองเอากาก ออก ใบเตยที่หั่นแล้วอีกส่วนหนึ่งปั่นให้ ละเอียดโดยเติมน้ำ กรองเอากากออก เติมน้ำที่คั้นได้ซึ่งมีสีเขียว และกลิ่นหอม ลงในหม้อใบเตยที่เติมน้ำตาลและกำลัง เดือดชิมให้มีรสหวาน พอเดือดรีบยกลง เมื่อจะดื่มใส่น้ำแข็งบดละเอียด
คุณค่าทางโภชนาการ
- ใบเตย
ลดอาการกระหายน้ำ และบำรุงหัวใจ
ในทึ่สุดก็มาถึงตอนจบของเรื่อง น้ำใบเตย และผมก็ได้แนะนำวิธีการทำ น้ำใบเตย เสร็จสิ้นลงแล้ว ก็เป็นอันจบเรื่องของ น้ำใบเตย กันแล้วครับทุกท่าน และในตอนนี้ผมก็ขอให้ทุกท่านได้รับความรู้ ความสนุกจากการทำ น้ำใบเตย และขอให้มีความสุข มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง กันทุกท่านนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น