สะระแหน่เป็นพืชสมุนไพรยืนต้น และเป็นพืชในตระกูลมิ้นต์ วงศ์กะเพรา มีแหล่งกำเนิดมาจากแถบยุโรปตอนใต้และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 70 - 150 เซนติเมตร ส่วนใบจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับใบพืชในตระกูลมิ้นต์ มีกลิ่นหอมคล้ายใบมะนาว และทุก ๆ ปลายฤดูร้อนต้นสะระแหน่จะออกดอกสีขาว ๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำหอมและน้ำหวาน อยู่ภายใน นี้ดึงดูดใจให้ผึ้งมาดูดน้ำหวานและจากเหตุนี้ทำให้สะระแหน่อยู่ในสกุลเมลิสซา (Melissa ในภาษากรีก แปลว่า น้ำผึ้ง) และยังมีรสชาติคล้ายคลึงกับ ตะไคร้หอม, มะนาว และแอลกอฮอล์
การปลูกสะระแหน่สามารถเพาะปลูกได้ง่าย โดยใช้วิธีการปักชำในแปลงปลูก หรือจะชำในแปลงเพาะก่อนแล้วจึงย้ายมาปลูกได้เช่นเดียวกัน แต่ข้อสำคัญคือต้องเตรียมดินให้ร่วนซุยดีเสียก่อน หรือใช้ดินร่วนปนทรายที่น้ำสามารถไหลซึมได้อย่างสะดวก เพราะสะระแหน่ชอบดินประเภทนี้ สะระแหน่ชอบที่ที่มีแดดเพียงพอแต่ไม่มากจนเกินไปเช่นเดียวกับพืชตระกูลมิ้นต์ และเหมาะที่จะปลูกในสภาพอากาศที่แห้งและความชิ้นต่ำ จะโตได้ดีที่สุดในที่ร่มและยังสะดวกที่จะเพาะปลูกในกระถางในร่ม สามารถเพาะเป็นแบบเมล็ดโดยการว่านกระจายไปให้ทั่วบริเวณ อุณหภูมิไม่เย็นจัดจนเกินไป และมันแค่ต้องการหญ้าหรือฟางมาคลุมใว้ด้านบนในช่วงที่อากาศหนาว การเก็บเกี่ยวสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงก่อนจะหมดเดือนพฤศจิกายน ลำต้นจะเริ่มตายลงในช่วงฤดูหนาวและจะเริ่มงอกใหม่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ยังเหมาะที่จะปลูกโดยไม่ใช้ดินและปักต้นกล้า และถ้าหากไม่คอยเอาใจใส่ดูแลให้ดี มันก็อาจจะเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ไปทั่วจนก่อให้เกิดความรกรุงรังและน่ารำคาญได้
การทำอาหาร ในประเทศไทย สะระแหน่ เป็นพืชที่ใช้ปรุงอาหารประเภทยำ ลาบ พล่า ต้มยำ อาหารที่มีรสจัด และช่วยปรุงแต่งกลิ่นให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น นอกจาก นั้น ยัง ใช้ทำยา และสกัดน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมอีกหลายอย่าง


ประโยชน์ของสะระแหน่ นั้นมีหลากหลายเพราะประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อย่าง เบต้าแคโรทีน วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น และยังให้พลังงาน 47 กิโลแคลอรี (ใน 100 กรัม) โดยใบสะระแหน่นั้นควรเลือกใช้ใบสดและยอดอ่อนจะได้สรรพคุณที่ดีกว่าใบแห้ง
สรรพคุณของสะระแหน่
- มีฤทธิ์เย็น รสเผ็ด เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ ขับเหงื่อรักษาอาการหวัดได้
- เป็นยาขับลม แก้อาการปวดท้อง จุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ และช่วยให้ผายลมได้ดี หากนำน้ำที่คั้นจากต้นและใบมาใช้ดื่มก็จะช่วยขับลมในกระเพาะได้ หรือใครจะกินสดๆ เพื่อดับกลิ่นปากก็ยังได้
- ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง โล่งคอ บำรุงสายตา และช่วยให้หัวใจแข็งแรง
- เป็นกระสายแทรกแก้โรคเด็ก เช่น ซางชัก ลดอาการท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
- แก้ปวดศรีษะ แก้บวม แก้อักเสบ แก้ฟกช้ำ ปวดฟัน เจ็บคอ เจ็บปาก เจ็บลิ้น ให้ดื่มน้ำต้มในสะระแหน่ 5 กรัม กับน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือเล็กน้อย วันละ 2 ครั้ง
- ช่วยคลายความกดดันของกล้ามเนื้อ อันมีสาเหตุมาจากความเหนื่อยล้าและความเครียด
- มีตัวยาบีบมดลูก อาจช่วยให้พัฒนายาทำแท้งจากพืชสำหรับมนุษย์ได้ในอนาคต
- ทำให้ผิดหนังชุ่มชื่น เนื่องจากมีวิตามินซีสูง
- ลดอาการเสียดท้องในเด็ก โดยนำใบสะระแหน่ 2-3 ใบ มาบดให้ละเอียด ผสมกับยาหอม แล้วนำมากวาดคอเด็ก

- แก้พิษแมงสัตว์กัดต่อย ทำได้โดยตำใบสะระแหน่ให้ละเอียด แล้วพอกบริเวณที่โดนกัด อย่าลืมว่าใบสะระแหน่ที่สดและอ่อน จะมีคุณค่ามากกว่าใบสะระแหน่แห้ง
- ใช้ใบสะระแหน่ต้มกับน้ำ ดื่มแก้อาการอาหารไม่ย่อย
- ใช้ใบสะระแหน่ต้มกันเต้าหู้ ดื่มแก้หวัด น้ำมูกไหล จาก ไอบ่อยๆ หรือจะเป็นไข้หวัด
- ใช้ใบสะระแหน่ตำให้ละเอียดพอกหรือทา แก้อาการเกร็งกล้ามเนื้อ แก้ปวดบวม ผื่นคัน
- ใช้สำลีชุบน้ำที่คั้นจากใบสะระแหน่ หยอดที่รูจมูก ห้ามเลือดกำเดาได้
- ใช้ใบสะระแหน่ต้มใส่เกลือเล็กน้อยดื่ม จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากแผลในปาก
- นำน้ำคั้นจากใบสะระแหน่หยอดหู จะช่วยบรรเทาอาการปวดหูได้ดี
- รับประทานน้ำต้มใบสะระแหน่และขิง จะช่วยบรรเทาอาการหน้ามืดตาลาย
- ใช้ไล่ยุงและแมลงได้ โดยนำใบสะระแหน่บดแล้วทาลงที่ผิวหนัง
- ช่วยรักษาโรคหอบหืด

- ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
- ช่วยรักษาอาการอ่อนเพลียของร่างกาย
- ช่วยห้ามเลือดกำเดาไหลได้ ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำที่คั้นจากใบสะระแหน่ หยอดที่รูจมูก
- ช่วยรักษาและบรรเทาอาการปวดหู ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบสะระแหน่มาหยอดที่รูหู
- ช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี
- ช่วยลดอาการหดเกร็งของลำไส้
- ช่วยรักษาอาการอุจจาระเป็นเลือด ด้วยการดื่มน้ำต้มใบสะระแหน่
- ช่วยผ่อนคลายความกดดันของกล้ามเนื้อซึ่งมาจากความเหนื่อยล้า
- ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
- ช่วยระงับอาการปวดได้ดีกว่ายาแก้ปวด
- ช่วยแก้อาการปวดบวม ผดผื่นคัน ด้วยการนำใบมาตำให้ละเอียดแล้วนำมาพอกบริเวณดังกล่าว
- กลิ่นของใบสะระแหน่ช่วยในการไล่ยุงและแมลงต่างๆ ด้วยการนำใบมาบดแล้วนำมาทาที่ผิว
- ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ด้วยการนำใบสะระแหน่มาตำให้ละเอียดแล้วนำมาพอกบริเวณที่โดนกัด
- นำไปทำเป็นยาปฏิชีวนะได้
- ช่วยยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
- นำไปใช้ทำเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ทำการบำบัดโดยใช้กลิ่น (อโรมาเธอราพี)
น้ําผลไม้ที่แนะนำ
- พันช์น้ำขิง
-
PG88 เว็บตรงสล็อตออนไลน์ PG SLOT สล็อตออนไลน์ได้กลายเป็นทางเลือกที่ยิ่งใหญ่และน่าสนใจสำหรับนักพนันในยุคปัจจุบัน PG การเล่นสล็อตผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้นสะดวกสบายและเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
ตอบลบ