วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การสงวนคุณค่าทางโภชนาการในการประกอบอาหาร

     1. ขั้นตอนก่อนการปรุงประกอบอาหาร
          1.1 ล้างหรือแช่ผัก คุณค่าอาหารจะละลายออกไปกับน้ำที่ล้างหรือแช่ ถ้าแช่นานยิ่งสูญเสียมาก คุณค่าอาหารที่สูญเสียไปได้แก่ เกลือแร่และวิตามินที่ละลายน้ำได้ เช่น วิตามินซี  วิตามินไม่ควรตัดหรือปอกผักผลไม้ก่อนล้างด้วย เพราะยิ่งมีเนื้อที่ที่ถูกตัดมาก คุณค่าอาหารต่างๆก็ละลายออกได้มากขึ้น
                 1.1.1 ล้างก่อนปลอกหรือหั่น การปอก คือ การตัดเอาส่วนที่ไม่ได้ใช้ออก  เช่น การปอกเปลือกผลไม้ต่างๆ แต่ส่วนที่ทานเปลือกได้ก็ไม่ควรปอกเช่น แตงกวา


                 1.1.2 ล้างก่อนเด็ดขั้ว เช่น มะเขือ พริก เป็นต้น
                 1.1.3  ตัดรากส่วนที่รับประทานไม่ได้ออกก่อนล้าง เช่น รากผักบุ้ง เป็นต้น
          1.2 ถูกกับอาหาร ยิ่งหั่นให้ชิ้นเล็ก จะมีผิวหน้าที่ถูกกับอากาศมากก็จะสูญเสียคุณค่าอาหารมาก เช่น วิตามินซีจะถูกทำลายได้เมื่อถูกอากาศและแสงแดด จึงไม่ควรหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และควรทำเมื่อใกล้ๆเวลาทำอาหาร

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อะโวคาโด

          อะโวคาโด หรือลูกเนย เป็นผลไม้ที่มีเนื้อมันเหมือนเนย อะโวคาโดเป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาแถบเม็กซิโก  กัวเตมาลา  และหมู่เกาะเวสอินดีส โดยมันเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้ผลรับประทานกันมานานในอเมริกาและยุโรป  อะโวคาโดจัดเป็นพืชดอกในวงศ์  Lauraceae  ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับ อบเชย, กระวาน และ เบย์ลอเรล (bay laurel) ผลของ อาโวกาโด หรือ alligator pear (สาลี่จระเข้) มีรูปทรงคล้ายสาลี่ คือมีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือรูปกลม มิชชันนารีชาวสหรัฐนำมาปลูกในประเทศไทยครั้งแรกที่ จังหวัดน่าน ต่อมาจึงมีหน่วยงานต่างๆ  นำอะโวคาโดมาปลูกมากขึ้น
          อะโวคาโดเป็นไม้ยืนต้น ต้นโตเต็มที่สูงถึง 18 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระ ใบสีเขียวสด ดอกขนาดเล็ก สีเขียวอมเหลือง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งผลกลมรี  หรือทรงลูกแพร์  มีทั้งพันธุ์เปลือกหนา  และเปลือกบาง เนื้อมีตั้งแต่เหลืองอ่อนจนถึงเหลืองเข้ม รสมัน เนื้อละเอียด ไม่มีกลิ่น มีเมล็ดเดียว มีรกหุ้มเมล็ด

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การทำผลไม้แช่อิ่ม

            สวัดดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน  ในวันนี้คงทำให้ทุกท่านงุนงงสักหน่อยนะครับว่าไอ้เรื่อง  "แช่อิ่ม"  มันมาได้ยังไงและมันเกี่ยวอะไรกับการทำน้ำผลไม้ล่ะนี้...???   คืองี้ครับพอดีมีผู้สนใจท่านหนึ่งอยากรู้วิธีการทำ "มะนาวโห่แช่อิ่ม"  ผมเองก็ไม่เคยทำ  แต่ก็ยินดีที่จะตอบให้นะครับ จะได้เป็นความรู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง  ส่วนวันนี้ผมก็เลยขอเสนอเป็นวิธีการทำผลไม้แช่อิ่มแบบกว้าง ๆ ไม่เจาะจงว่าจะเป็นผลไม่ชนิดไหนนะครับ
          เมื่อพูดถึงการแช่อิ่ม  ผลไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นผลไม้แช่อิ่ม หรือตากแห้งมีอยู่เพียงไม่กี่ชนิดก็ เช่น สับปะรด มะม่วง มะละกอ ขนุน กล้วย ฝรั่ง เป็นต้น ส่วนผักที่นิยมทำเป็นผักแช่อิ่มก็ ได้แก่ มะเขือเทศ ฟักเขียว มะเขือไข่เต่า เป็นต้น

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

พันช์ลิ้นจี่

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน  ช่วงนี้ก็เข้าสู่เดือนเมษายน  กันแล้วนะครับ  อากาศในช่วงนี้ก็ร้อนที่สุดจริงๆ  ทำให้ใครๆ  ก็ต้องหาของเย็นๆ  มากินมาดื่ม  เพื่อคลายความร้อนกันทั่วหน้า  และเดือนนี้ผมก็ได้รับแจกลิ้นจี่จากผู้หลักผู้ใหญ่ในที่ทำงานมามากมายเลยที่เดียวครับ  ผมก็เลยคิดว่าน่าจะทำอะไรกับไอ้เจ้าลิ้นจี้ที่ได้รับมาให้มันน่าดื่มขึ้นมาบ้าง  วันนี้ผมจึงขอเสนอ  พันช์ลิ้นจี่ นะครับ

 ส่วนผสม
 เนื้อลิ้นจี่หั่นชิ้น                              1     ถ้วย
 น้ำต้มสุกแช่เย็น                           1/3    ถ้วย
 น้ำมะนาว                                       2    ช้อนโต๊ะ
 น้ำหวานสีแดง                              1/2    ถ้วย
 น้ำโซดา                                          1   ขวด
 น้ำแข็งชนิดก้อน
 ยอดสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

พันช์สับปะรด

          สวัสดีครับท่านผู้สนใจการทำน้ำผลไม้ทุกท่าน  ในวันนี้เราจะมาทำน้ำผลไม้อีกเช่นเคย แต่จะขอทำในแบบของน้ำพันช์กันนะครับ  ส่วนผลไม้หลักที่เราจะใช้กันก็คือ  สับปะรด  ครับ  "ก็ตามชื่อหัวข้อแหละครับ...555" ส่วนผสมรองก็จะมี ส้มเขียวหวาน ขิงสด และใบสะระแหน่  นะครับ
          การรับประทานสับปะรดที่ถูกวิธี คือใช้มีดใหญ่เฉือนเปลือกออกจนหมด จากนั้นจึงใช้มีดตัดส่วนตาออกเป็นร่องเฉียง เป็นแถว ๆ เอาส่วนตาออกแล้วตัดเป็นชิ้น แล้วเอาเกลือแกงทาให้ทั่ว หรือไม่ก็แช่ในน้ำเกลืออ่อน ๆ ประมาณ 2-3 นาที การทาเกลือหรือแช่ในน้ำเกลือนอกจากจะทำให้รสชาติดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการทำลายสารจำพวก Glycoalkaoid และ เอ็นไซม์ บางชนิด ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้
          การรับประทานสับปะรดเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรค ไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง หลอดลมอักเสบ  แต่ถ้าหากสับปะรดเริ่มนิ่ม มีน้ำเหนียวๆ ไหลออกมา แสดงว่าสับปะรดสุกมากเกินไปและกำลังเริ่มเน่า อันนี้ไม่ควรรับประทานะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลิ้นจี่

          ลิ้นจี่ เป็นชื่อของผลไม้ประเภทผลเดี่ยวซึ่งมีลักษณะเปลือกสีแดงชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์ SAPINDACEAE (ซึ่งก็คือวงศ์เดียวกับเงาะและลำไยนั้นเอง) ลิ้นจี่นั้นเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยให้ผลผลิตคุ้มค่ากับการลงทุนจึงถือว่าเป็นผลไม้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยที่สามารถนำผลผลิตที่ได้มาจำหน่ายในรูปของผลไม้สดและผลไม้แปรรูป ปัจจุบันนี้ลิ้นจี่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลายขึ้นเรื่อยๆจากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว  ลิ้นจี่ถูกกล่าวถึงในประวัติศาสตร์จีนในสมัยราชวงศ์ถัง โดยเป็นผลไม้โปรดของหยางกุ้ยเฟย พระสนมของจักรพรรดิถังเสวียนจง ทรงบัญชาให้ทหารม้านำลิ้นจี่จากแหล่งปลูกทางตอนใต้ของจีน เดินทางข้ามวันข้ามคืนมาถวายที่ปักกิ่ง
           ลิ้นจี่มีต้นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ อีกทั้งปลูกได้ในไทย เวียตนาม ญี่ปุ่น บังคลาเทศ และอินเดียตอนเหนือ อเมริกาใต้และสหรัฐอเมริกา (ฮาวาย และฟลอลิดา) ประเทศจีน บันทึกการใช้ผลไม้นี้ มาตั้งแต่ 2000 ปี ก่อนคริสตกาล ลิ้นจี่นั้นเป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตคุ้มค่ากับการลงทุนจึงถือว่าเป็นผลไม้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ที่สามารถนำผลผลิตที่ได้มาจำหน่ายในรูปของผลไม้สดและผลไม้แปรรูป เช่นการทำลิ้นจี่กระป๋อง ลิ้นจี่อบแห้ง แต่รสชาติจะไม่เหมือนลิ้นจี่สด เพราะความหอมได้ถูกทำลายไปในขั้นตอนการผลิต ปัจจุบันนี้ ลิ้นจี่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลายขึ้นเรื่อยๆจากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว
          เนื้อลิ้นจี่ มีรสชาติหวานหอมอร่อย เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานและแต่งรสชาติในอาหารหวานคาว และผสมในเครื่องดื่ม เป็นผลไม้ที่นิยมในประเทศจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดถึงเอเชียใต้ และอินเดีย

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

สะระแหน่

           สะระแหน่ มีชื่อในภาษาอังกฤษหรือชื่อสามัญ ว่า  Kitchen Mint, Marsh Mint  และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์  ว่า Metha cordifolia Opiz   มีชื่อวงศ์ ว่า Labiatae  ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยมีชื่อ  ดังนี้  หอมด่วน หอมเดือน (ภาคเหนือ), มักเงาะ สะแน่ (ภาคใต้), สะระแหน่สวน (ภาคกลาง), ขะแยะ (อีสาน) 
          สะระแหน่เป็นพืชสมุนไพรยืนต้น และเป็นพืชในตระกูลมิ้นต์ วงศ์กะเพรา มีแหล่งกำเนิดมาจากแถบยุโรปตอนใต้และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 70 - 150 เซนติเมตร ส่วนใบจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับใบพืชในตระกูลมิ้นต์ มีกลิ่นหอมคล้ายใบมะนาว และทุก ๆ ปลายฤดูร้อนต้นสะระแหน่จะออกดอกสีขาว ๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำหอมและน้ำหวาน อยู่ภายใน นี้ดึงดูดใจให้ผึ้งมาดูดน้ำหวานและจากเหตุนี้ทำให้สะระแหน่อยู่ในสกุลเมลิสซา (Melissa  ในภาษากรีก  แปลว่า  น้ำผึ้ง) และยังมีรสชาติคล้ายคลึงกับ ตะไคร้หอม, มะนาว และแอลกอฮอล์
          การปลูกสะระแหน่สามารถเพาะปลูกได้ง่าย โดยใช้วิธีการปักชำในแปลงปลูก หรือจะชำในแปลงเพาะก่อนแล้วจึงย้ายมาปลูกได้เช่นเดียวกัน แต่ข้อสำคัญคือต้องเตรียมดินให้ร่วนซุยดีเสียก่อน หรือใช้ดินร่วนปนทรายที่น้ำสามารถไหลซึมได้อย่างสะดวก  เพราะสะระแหน่ชอบดินประเภทนี้  สะระแหน่ชอบที่ที่มีแดดเพียงพอแต่ไม่มากจนเกินไปเช่นเดียวกับพืชตระกูลมิ้นต์ และเหมาะที่จะปลูกในสภาพอากาศที่แห้งและความชิ้นต่ำ จะโตได้ดีที่สุดในที่ร่มและยังสะดวกที่จะเพาะปลูกในกระถางในร่ม สามารถเพาะเป็นแบบเมล็ดโดยการว่านกระจายไปให้ทั่วบริเวณ อุณหภูมิไม่เย็นจัดจนเกินไป  และมันแค่ต้องการหญ้าหรือฟางมาคลุมใว้ด้านบนในช่วงที่อากาศหนาว  การเก็บเกี่ยวสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงก่อนจะหมดเดือนพฤศจิกายน  ลำต้นจะเริ่มตายลงในช่วงฤดูหนาวและจะเริ่มงอกใหม่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ยังเหมาะที่จะปลูกโดยไม่ใช้ดินและปักต้นกล้า และถ้าหากไม่คอยเอาใจใส่ดูแลให้ดี มันก็อาจจะเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ไปทั่วจนก่อให้เกิดความรกรุงรังและน่ารำคาญได้