
อะโวคาโดเป็นไม้ยืนต้น ต้นโตเต็มที่สูงถึง 18 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระ ใบสีเขียวสด ดอกขนาดเล็ก สีเขียวอมเหลือง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งผลกลมรี หรือทรงลูกแพร์ มีทั้งพันธุ์เปลือกหนา และเปลือกบาง เนื้อมีตั้งแต่เหลืองอ่อนจนถึงเหลืองเข้ม รสมัน เนื้อละเอียด ไม่มีกลิ่น มีเมล็ดเดียว มีรกหุ้มเมล็ด
อะโวคาโดแบ่งออกเป็น 3 พันธุ์ ดังนี้
1. พันธุ์กัวเตมาลา มีผลสีเขียว ขั้วผลขรุขระ เมล็ดเรียบเล็กค่อนข้างกลม เนื้อหนา ไขมันสูง ชอบอากาศหนาวเย็นปานกลาง
2. พันธุ์เวสต์อินเดียน ผลมีผิวเรียบเป็นมัน สีเขียวอมเหลือง เปลือกหนา เมล็ดอยู่ในโพรงเมล็ดอย่างหลวมๆ รสหวานอ่อน ไขมันน้อย ชอบอากาศร้อน
3. พันธุ์เม็กซิโก มีผลเล็กเรียบ เมื่อแก่สีม่วง เปลือกบางกว่าอีก 2 เผ่า เปลือกหุ้มเมล็ดบาง เมล็ดใหญ่อยู่ในโพรงเมล็ดอย่างหลวมๆ มีไขมันมากที่สุด ทนอากาศเย็นได้ดีที่สุด
อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีการค้าขายและเพาะปลูกในภูมิอากาศเขตร้อนทั่วโลก (และบางส่วนในเขตอบอุ่น เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย) มีผลสีเขียวรูปร่างเหมือนลูกสาลี่และจะสุกหลังการเก็บเกี่ยว ต้นไม้สามารถถ่ายเรณูในต้นเดียวกันได้ และบางครั้งการขยายพันธุ์จะใช้การติดตาตอนกิ่งเพื่อที่จะสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณของผลได้
อะโวคาโดมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น จึงถือว่าเป็น “อาหารเพื่อสุขภาพ” เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย คุณค่าทางโภชนาการของอะโวคาโดดิบต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 160 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยแร่ธาตุ ดังนี้
• คาร์โบไฮเดรต 8.53 กรัม • น้ำตาล 0.66 กรัม
• เส้นใย 6.7 กรัม • ไขมัน 14.66 กรัม
• โปรตีน 2 กรัม • น้ำ 73.23 กรัม
• เบต้าแคโนทีน 42 ไมโครกรัม 1% • ลูทีน และ ซีแซนทีน 271 ไมโครกรัม
• กรดไขมันอิ่มตัว 2.13 กรัม • ธาตุแคลเซียม 12 มิลลิกรัม 1%
• กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 9.8 กรัม • ธาตุเหล็ก 0.55 มิลลิกรัม 4%
• กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 1.82 กรัม • ธาตุแมกนีเซียม 29 มิลลิกรัม 8%
• วิตามินเอ 7 ไมโครกรัม 1% • ธาตุแมงกานีส 0.142 มิลลิกรัม 7%
• วิตามินบี1 0.067 มิลลิกรัม 6% • ธาตุฟอสฟอรัส 52 มิลลิกรัม 7%
• วิตามินบี2 0.13 มิลลิกรัม 11% • ธาตุโพแทสเซียม 485 มิลลิกรัม 10%
• วิตามินบี3 1.738 มิลลิกรัม 12% • ธาตุโซเดียม 7 มิลลิกรัม 0%
• วิตามินบี5 1.389 มิลลิกรัม 28% • ธาตุสังกะสี 0.64 มิลลิกรัม 7%
• วิตามินบี6 0.257 มิลลิกรัม 20% • ธาตุฟลูออไรด์
• วิตามินบี9 81 ไมโครกรัม 20%
• วิตามินซี 10 มิลลิกรัม 12%
• วิตามินอี 2.07 มิลลิกรัม 14%
• วิตามินเค 21 ไมโครกรัม 20%

โทษของอะโวคาโด ผลดิบไม่สามารถรับประทานได้ เนื่องจากะมีสารแทนนินในปริมาณมาก และมีรสขม หากรับประทานในปริมาณมากอาจจะทำให้ปวดศีรษะได้ ดังนั้นควรรับประทานแต่ผลสุก ในบางรายอาจมีอาการแพ้อะโวคาโดได้ โดยอาจจะแพ้ในรูปของละอองเกสร หรือแพ้หลังจากการรับประทานอะโวคาโดก็ได้ โดยอาการที่ปรากฏก็ได้แก่ ปวดท้อง อาเจียน ผื่นคัน ลมพิษ หรือาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ข้อมูลจาก
- http://th.wikipedia.org
- http://frynn.com
- http://www.rdi.ku.ac.th
น้ําผลไม้ที่แนะนำ
-
-
สล็อต pg joker นักพนันผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้จักถึงความอุดมสมบูรณ์ pg slot เรื่องเกมพนันที่ครบวงจรเยอะที่สุดแม้คุณกำลังมองหาเกมพนันที่ท้าก็มีอัตราการชำระเงินรางวัลเหมาะสม
ตอบลบ